มาเลเซีย กร้าวใส่ “อองหล่าย”-อาจไม่เชิญถกอาเซียน-พร้อมคุย”รบ.เงา”

1480

 

ไปติดตามสถานการณ์ในเมียนมากันต่อ ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย กร้าวใส่มิน ออง หล่าย ว่า พร้อมที่จะจัดการเจรจากับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือ NUG หากไม่ให้ความร่วมมือกับทูตพิเศษอาเซียน หลังจากก่อนหน้าได้ขู่อาจจะไม่เชิญ “มิน ออง หล่าย” เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ

 

สำนักข่าวดิอิรวดี รายงานเมื่อ 6 ตุลาคม 2564 โดยอ้างการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นเบอร์นามา ว่า ดาโต๊ะ ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย (Saifuddin Abdullah) บอกกับสภาล่างของรัฐสภามาเลเซีย เมื่อวันพุธที่ 6 ต.ค.64 ว่า มาเลเซียกำลังพิจารณาจัดการเจรจากับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา ( (NUG) หากระบอบการปกครองของทหารไม่ร่วมมือกับฉันทามติ 5 ประเด็น ที่อาเซียนเห็นชอบในการแก้ไขวิกฤต

สำนักข่าวดิอิรวดี รายงานอีกว่า เมียนมาร์ สมาชิกอาเซียนอยู่ในความปั่นป่วนทางสังคมและการเมืองนับตั้งแต่รัฐประหาร ซึ่งตามมาด้วยการปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านระบอบการปกครองอย่างโหดเหี้ยมและรุนแรง ประชาคมระหว่างประเทศได้ผลักดันให้มีการแก้ปัญหาทางการฑูตสำหรับวิกฤตดังกล่าว และอาเซียนได้แต่งตั้งทูตพิเศษที่รัฐบาลทหารได้ตกลงที่จะร่วมมือด้วย ซึ่งฉันทามติ 5 ประเด็นของอาเซียน เป็นประเด็นที่รัฐบาลทหารได้ตกลงที่จะปฏิบัติตาม

 

ดาโต๊ะ ไซฟุดดิน อับดุลละฮ์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย/Cr.Saifuddin Abdullah

รายงานข่าว ระบุด้วยว่า หากมาเลเซียพบกับ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG ) จะเป็นประเทศอาเซียนกลุ่มแรกที่ จัดการเจรจาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมาร์ ซึ่งก่อตั้งโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้งจากพรรค NLD ที่ถูกโค่นอำนาจ

ซึ่งนั่นจะส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อรัฐบาลทหาร ซึ่งแสวงหาการยอมรับอย่างเป็นทางการจากประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนว่าเป็นรัฐบาลโดยชอบธรรมของเมียนมาร์

ก่อนหน้านี้เมื่อ เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. 2564 รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียกล่าวว่า พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐประหาร อาจถูกกีดกันออกจากการประชุมสุดยอดระดับภูมิภาค ซึ่งกำหนดไว้ปลายเดือน ต.ค.นี้ เนื่องจากรัฐบาลทหารล้มเหลวในการร่วมมือกับความพยายามของอาเซียน

เขาแสดงความไม่พอใจหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเขาได้รับแจ้งว่า ทางเนปิดอว์ ยังคงไม่ให้ความร่วมมือกับข้อตกลงที่เป็นเอกฉันท์ของอาเซียน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบอบการปกครองกำลังขัดขวางการเยือนเมียนมาร์ที่เสนอโดย
นายเอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ (Erywan Yusof ) รัฐมนตรีต่างประเทศคนที่ 2 แห่งบรูไนดารุสซาลาม ที่สมาชิกอาเซียนมีมติแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษอาเซียน ซึ่งกำลังพยายามพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในวิกฤต รวมถึงนางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐที่ถูกคุมขัง และสมาชิกคนอื่นๆ ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยที่ถูกขับไล่ (พรรค NLD)

 

นายเอรีวัน เปฮิน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนที่สองของบรูไน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตอาเซียนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ นายยูซอฟ ได้รับการเสนอให้เข้าพบเพียงอดีตรองประธานาธิบดี และอดีตประธานสภาล่าง

ซึ่งภายหลังการถกเครียด ทูตพิเศษกล่าวเมื่อวันพุธที่ 4 ต.ค. ว่า ทางกลุ่มกำลัง “หารือกันอย่างลึกซึ้ง” เกี่ยวกับการไม่เชิญ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในวันที่ 26-28 ตุลาคมนี้ หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียและคนอื่นๆ หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา .

สำหรับ มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐประหารของเมียนมาร์กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กำลังจะมีขึ้น ตามการระบุของนักการทูตในย่างกุ้ง โดยมองว่านี่เป็นวิธีแสดงให้เห็นถึงความชอบธรรมของรัฐบาลทหาร และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึง “การยอมรับ” ของอาเซียนต่อระบอบเผด็จการของเขา

ในขณะที่เมื่อวันอังคารที่ 5 ต.ค. วุฒิสภาฝรั่งเศสลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ยอมรับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของเมียนมา (NUG )หากสภาล่างของรัฐสภาฝรั่งเศสอนุมัติการลงคะแนนเสียง ฝรั่งเศสจะกลายเป็นประเทศแรกที่ยอมรับรัฐบาลเงาของเมียนมาร์อย่างเป็นทางการ

ในวันเดียวกันนั้น สหรัฐฯ ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติพม่า ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลทหารโดยกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและหน่วยงานที่ช่วยก่อรัฐประหารและผู้ที่รับผิดชอบในการปราบปรามที่ตามมา

ครับ สถานการณ์ของมินออง หล่าย ในขณะนี้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ทั้งศึกนอก ศึกใน โดยเฉพาะศึกในนั่น การประกาศสงครามของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ทำให้ประชาชนจับอาวุธลุกขึ้นสู้หนักมาก และเมียนมา ต้องตกอยู่ในสภาพการเป็นรัฐล้มเหลว และสภาทหาร
ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในหลายภูมิภาคของประเทศ

แม้ก่อนหน้านี้จีน ประกาศจะยืนเคียงข้าง แต่เมื่อมีข่าวว่าจะมีการโจมตีท่อก๊าซของจีน ก็ดูเหมือนจีนจะดูสงวนท่าทีมากขึ้น ตอนนี้จึงเหลือเพียง”อาเซียน”เท่านั้น ที่จะเป็นทางออกให้ มิน ออง หล่ายได้

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เอาเข้าจริงๆ ประเทศอาเซียน มีวัฒนธรรมแบบถ่อยทีถ่อยอาศัยกัน และติดลูกเกรงใจจีน สุดท้ายคงไม่พ้นเข้าทางมิน ออง หล่าย อีกเช่นเคย ครับ