มาติดตามสถานการณ์ในพม่ากันต่อ ล่าสุด มีรายงานว่า ทหารพม่ายิงปืนใหญ่ตกใกล้ค่ายดอยก่อวัน ของไทใหญ่ RCSS หรือ สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน ของพลเอกเจ้ายอดศึก สองวันติด โดยวันแรกคือ 18 เมษายน ตกใกล้ค่ายดอยก่อวัน และ 19 เมษายน ตกเฉียดค่ายผู้ลี้ภัย ที่อยู่ใกล้ค่ายดอยก่อวัน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้านทหารไทยได้สั่งการให้กองทัพในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้น่าสนใจไปติดตามกันครับ
19 เมษายน 2564 มีรายงานจากสำนักข่าว Tachileik News ว่ากองทัพทหารพม่า ได้ยิงปืนใหญ่เป็นวันที่สอง โดยตกใกล้ค่าย RCSS ในดอยก่อวันใกล้ อำเภอท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน
รายละเอียดบอกว่า ทหารพม่าคุกคามค่ายผู้ลี้ภัยใกล้ค่ายดอยก่อวัน ของ RCSS / SSA หรือ สภากอบกู้รัฐฉานกองทัพรัฐฉาน บริเวณชายแดนพม่า – ไทย อำเภอท่าขี้เหล็ก ทางตะวันออกของรัฐฉาน ซึ่งเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. เป็นวันที่สองของการยิงกระสุนปืนใหญ่กลับมาอีกครั้ง
เจ้าหน้าที่ RCSS/SSA ยืนยันกับสำนักข่าวท่าขี้เหล็กเมื่อ 19 เมษายน ว่าปืนใหญ่ถูกยิงในเย็นวันนี้ กระสุนหนึ่งในนั้นตกใกล้ที่พักผู้ลี้ภัย ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะมีค่ายผู้ลี้ภัยอยู่ตามแนวชายแดนประมาณ 6 แห่ง
โดยวันก่อนหน้า คือ เย็นวันที่ 18 เมษายน ทหารพม่าได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ 3 นัดไปที่ค่ายของสภาฟื้นฟูรัฐฉาน กองทัพรัฐฉาน (RCSS / SSA) ที่ดอยก่อวัน ชายแดนพม่า – ไทย ใกล้อำเภอท่าขี้เหล็ก
และในตอนเย็นของวันที่ 19 เมษายน มีการยิงกระสุนปืนใหญ่อีก 2 นัดที่ค่ายผู้ลี้ภัยใกล้กับค่ายดอยก่อวัน
แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บในสองวันของการยิงปืนใหญ่โดยกองกำลังรัฐประหาร ซึ่งเป็นที่มาของความกังวลสำหรับผู้ลี้ภัยที่ชายแดน
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า ทหารไทยได้สั่งการให้กองทัพในพื้นที่ติดตามสถานการณ์และดูแลให้ฝ่ายไทยไม่เป็นอันตรายต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงเนื่องจากกระสุนปืนใหญ่ที่ชายแดนพม่า – ไทย
โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานในเวบไซต์ข่าวผู้จัดการว่า คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นหรือ ทีบีซี ฝ่ายเมียนมา ได้มีส่งหนังสือถึงทีบีซีฝ่ายไทย ลงวันที่ 30 มี.ค. ระบุว่า สภากอบกู้รัฐฉาน (Restoration Council of Shan State-RCSS) และกองทัพรัฐฉาน (Shan State Army-SSA) ได้ประกาศประท้วงต่อคณะบริหารงานประเทศ และจะอยู่ฝ่ายผู้ชุมนุมประท้วง รวมทั้งรับผิดชอบในความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
ทหารพม่ายิงปืนใหญ่ตกใกล้ค่ายดอยก่อวัน ของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/Cr.ภาพ ငဝ်းလႅင်း ႁုၼ်ႈမႂ်ႇ
ซึ่งทางการเมียนมาถือว่ากระทบต่อความสงบเรียบร้อย ดังนั้น กองกำลังทหารเมียนมาจึงมีความจำเป็นต้องเปิดทำการสู้รบเพื่อเข้าโจมตีกองกำลัง RCSS และ SSA ที่มีฐานอยู่ตามแนวชายแดนเมียนมา-ไทย เช่น ฐานดอยก่อวัน (ตรงกันข้ามบ้านพญาไพร ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง) ฐานตะยะวดี หรือดอยสันจุ๊ (ตรงกันข้าม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่) ฐานดอยปุกกะลา ฐานดอยไตแลง ตรงกันข้าม จ.แม่ฮ่องสอน โดยเมื่อฝ่ายกองทัพเมียนมาเปิดการรบจะกำชับการปฏิบัติไม่ให้มีกระสุนตกรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย เพื่อความสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันของทั้ง 2 กองทัพต่อไป
ทั้งนี้ กองกำลังไทใหญ่ที่มีฐานที่มั่นติดกับ จ.เชียงราย มี พ.อ.พิศษเจ้ากอนจื้น เป็นผู้บัญชาการกองทัพภาคเชียงตุง กองทัพรัฐฉาน RCSS/SSA มีกองบัญชาการใหญ่อยู่ที่ดอยก่อวัน
ทหารพม่ายิงปืนใหญ่ตกใกล้ค่ายดอยก่อวัน ของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/Cr.ภาพ ငဝ်းလႅင်း ႁုၼ်ႈမႂ်ႇ
และยังมีฐานกระจายอยู่หลายจุด เช่น ฐานดอยก่อเมือง อยู่ติดกับบ้านผาจี ต.เทอดไทย ตรงข้ามกันมีฐานดอยโคมเคียงของกองทัพเมียนมา ฐานก่อฮอมที่อยู่ใกล้กับฐานดอยก่อวัน
จากสัญญาณอย่างนี้ คาดว่ากลุ่มพลเอกเจ้ายอดศึก จะเลี่ยงเปิดศึกกับพม่าในครั้งนี้ไม่ได้แล้ว ทั้งที่พยายามแก้ปัญหาโดยการพูดคุยมาตลอด
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ นอกจากทหารพม่าแล้ว เจ้ายอดศึก ยังมีคู่ขัดแย้งซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ 2 กลุ่ม คือ กองทัพสหรัฐว้า”(UWSA) ของ“เป่าโหย่วเสียง” ที่พม่าใช้เป็นสงครามตัวแทน เล่นงานเจ้ายอดศึกมาตลอด และยังมี ไทใหญ่เหนือ พรรคก้าวหน้ารัฐชาน (SSPP) ของเจ้าป่างฟ้าเป็นผู้นำ ซึ่งต้องดูว่าจะร่วมกับทหารพม่า เข้าผสมโรงร่วมเล่นงานกลุ่มเจ้ายอดศึกหรือไม่
ค่ายดอยก่อวันของสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/Cr.ภาพ ငဝ်းလႅင်း ႁုၼ်ႈမႂ်ႇ
หากเข้าร่วมเจ้ายอดศึกต้องเจอศึกหนักแน่ เว้นแต่กองกำลังชาติพันธุ์อีก 9 กลุ่มที่ร่วมตัวกันในกลุ่มข้อตกลงหยุดยิง หรือ Nationwide Ceasefire Agreement-NCA) เข้าร่วมด้วย
ซึ่งถ้าจะเป็นอย่างนั้น สถานการณ์คงไม่ต่างอะไรสงครามกลางเมืองซีเรีย และจะทำให้ไทย ลำบากใจไม่น้อย คงต้องติดตามกันต่อไป
